ปก

ตู้ชาร์จอัจฉริยะ H SEM กด เปิด และ เปลี่ยน ง่าย ๆ แค่นี้ จริงเหรอ?

“รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าซื้อเพื่ออะไร ถ้าไม่มีตู้ชาร์จ”

“ตู้ชาร์จไม่มี ซื้อไปแบตหมดกลางทางทำไง?” 

H SEM เชื่อเหลือเกินว่าหลายคนที่วางแผนเอาไว้ว่าจะซื้อรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าคงจะคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างหนักแน่นอน เนื่องจากตู้ชาร์จแบตเตอรี่รถพลังงานไฟฟ้านั้นก็เปรียบเสมือนกับน้ำมันที่เป็นพลังงานหลักในการขับเคลื่อนรถมอเตอร์ไซค์ทั่วไปนั่นเอง

อย่างไรก็ตามแต่ เป็นที่ทราบกันดีว่าสถานีชาร์จรถพลังงานไฟฟ้า หรือ ตู้ชาร์จแบตเตอรี่รถพลังงานไฟฟ้า เป็นอะไรที่หาได้ยากอย่างมากในประเทศไทย นั่นจึงทำให้กระแสการซื้อรถพลังงานไฟฟ้ายังไม่บูมเท่าที่ควรด้วยเหตุนี้เอง H SEM จึงได้ผลิตตู้ชาร์จอัจฉริยะขึ้นมาเพื่อรองรับการใช้งานของคุณลูกค้า

ตอบคำถามที่หลายคนสงสัย สถานีชาร์จแบตเตอรี่ ในไทย มีกี่จุด?

จริงอยู่ที่สถานีชาร์จแบตเตอรี่ในไทยนั้นหาได้ยากมาก แต่ใช่ว่าจะไม่มีเลย โดยในปัจจุบันประเทศไทยนั้นมีการเปิดสถานีชาร์จแบตเตอรี่ทั้งสิ้น 462 จุด โดยบริษัทที่เปิดสถานีชาร์จแบตเตอรี่มากที่สุดก็คือ EA Anywhere ที่เปิดใช้แล้ว 400 จุดภายในปี 2562 ที่ผ่านมา และมีเปิดเพิ่มเติมอีก 35 จุดแบบ Fast Charge ซึ่งพื้นที่ที่ให้บริการส่วนใหญ่อยู่ในเขตกทม และ ปริมณฑล เท่านั้น 

ส่วนผู้ให้บริการรายอื่นอย่างการไฟฟ้านครหลวง (MEA), การไฟฟ้าฝ่ายผลิต (EGAT), ปตท และแบรนด์รถยนต์ต่าง ๆ ยังคงอยู่ในช่วงเริ่มต้นการกระจายจุดให้บริการ ( 10-100 สถานี ) แน่นอนว่าจุดให้บริการส่วนใหญ่ยังอยู่ในเขตกทม และปริมณฑล ที่สำคัญยังเป็นสถานีชาร์จแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์เท่านั้น โดยบริษัทที่เปิดสถานีชาร์จแบตเตอรี่ให้บริการตามสถานีที่ต่าง ๆ ดังนี้

1. สถานีอัดประจุไฟฟ้า การไฟฟ้านครหลวง MEA

การไฟฟ้านครหลวงมีสถานีชาร์จรถ EV เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนหันมาใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้ากันมากขึ้น โดยสถานีชาร์จที่มี ได้แก่

  • กฟน. สำนักงานใหญ่ เพลินจิต
  • กฟน. เขตวัดเลียบ
  • กฟน. เขตสามเสน
  • กฟน. เขตบางเขน
  • กฟน. เขตบางขุนเทียน
  • กฟน. เขตลาดกระบัง
  • กฟน. เขตบางใหญ่
  • กฟน. เขตสมุทรปราการ
  • กฟน. เขตราษฎร์บูรณะ
  • กฟน. เขตธนบุรี
  • กฟน. ที่ทำการบางพูด
  • 7-Eleven สาขาบ้านสวนลาซาล (ศรีนครินทร์)
  • 7-Eleven สาขา สน.บางขุนนนท์

2. สถานีอัดประจุไฟฟ้า EV Station ปตท. (PTT)

โดยทาง PTT หรือ ปตท. มีจุดชาร์จไฟแบบ Quick Charge 5 แห่ง ดังนี้

  • PTT Station สาขาพหลโยธิน กม. 25 กรุงเทพฯ
  • PTT Station สาขาวงแหวนกาญจนาภิเษก-ตลิ่งชัน กรุงเทพฯ
  • PTT Station สาขาพัฒนาการ ขาออก กรุงเทพฯ
  • PTT Station สาขาหนองแขม กรุงเทพฯ
  • PTT Station สาขาแยกหาดจอมเทียน พัทยา

และจุดชาร์จไฟแบบธรรมดา 25 แห่ง ทั่วประเทศ ดังนี้

  • กรุงเทพมหานคร
  • สาขาแยกประชาอุทิศ-ลาดพร้าว กรุงเทพฯ
  • สาขาทุ่งครุ
  • สาขาพระราม 2 (ขาออก)
  • สาขาบรมราชชนนี (ขาเข้า)
  • สาขาราชพฤกษ์ 1
  • สาขาเอกมัย-รามอินทรา
  • สาขาลาดพร้าว-วังหิน
  • สาขานวลจันทร์
  • สาขามัยลาภ
  • สาขาราษฎร์บูรณะ (ขาออก)
  • นนทบุรี
  • สาขาประชาชื่น 2
  • ปทุมธานี
  • สาขาวงแหวนตะวันตก (ขาเข้า)
  • สาขาคลองหลวง กม.6
  • สาขาแยกสันติสุข
  • สมุทรสาคร
  • สาขาพระราม 2 (ขาเข้า)
  • นครปฐม
  • สาขาพุทธมณฑล สาย 4
  • สาขาพุทธมณฑล สาย 5
  • พระนครศรีอยุธยา
  • สาขาวังน้อย
  • สาขาบางปะอิน
  • สระบุรี
  • สาขาสระบุรี
  • ระยอง
  • สาขาโรงแยกก๊าซระยอง
  • สาขาตำบลมาบข่า
  • ขอนแก่น
  • สาขาเมืองขอนแก่น
  • เชียงใหม่
  • สาขาสารภี
  • สงขลา
  • สาขาหาดใหญ่ใน (ขาออก)

3. สถานีอัดประจุไฟฟ้า การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA)

การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) เปิดให้บริการสถานีอัดประจุไฟฟ้า PEA VOLTA จำนวน 11 สถานี ดังนี้

  • สายภาคเหนือ (กรุงเทพฯ – พระนครศรีอยุธยา) จำนวน 2 สถานี
  • สายภาคใต้ (กรุงเทพฯ – หัวหิน) จำนวน 4 สถานี
  • สายภาคตะวันออก (กรุงเทพฯ – พัทยา) จำนวน 3 สถานี
  • สายภาคตะวันตก (กรุงเทพฯ – นครปฐม) จำนวน 1 สถานี สำนักงานใหญ่ กฟภ. จำนวน 1 สถานี

4. สถานีอัดประจุไฟฟ้า การไฟฟ้าฝ่ายผลิต (EGAT)

     การไฟฟ้าฝ่ายผลิตมีสถานีอัดประจุไฟฟ้า ทั้งแบบ Quick Charge และ Normal Charge ดังนี้

  • พระนครศรีอยุธยา โรงไฟฟ้าวังน้อย
  • ลำปาง โรงไฟฟ้าแม่เมาะ
  • ขอนแก่น โรงไฟฟ้าน้ำพอง
  • ฉะเชิงเทรา โรงไฟฟ้าบางปะกง
  • สงขลา โรงไฟฟ้าจะนะ
  • นครราชสีมา โรงไฟฟ้าลำตะคองฯ
  • อุบลราชธานี โรงไฟฟ้าเขื่อนสิริธร
  • นนทบุรี สำนักงานกลาง กฟผ.
  • ศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. สำนักงานกลาง

5. สถานีอัดประจุไฟฟ้า EA Anywhere หรือ บ.พลังงานบริสุทธิ์

EA Anywhere บริษัทเอกชนที่เข้าร่วมกับบริษัทยักษ์ใหญ่ เช่น คาลเท็กซ์, ซีพี ออลล์, บริดจสโตน เอ.ซี.ที และ โรบินสัน โดยในปัจจุบันมีแล้วกว่า 400 แห่งกระจายทั่วประเทศ สามารถตรวจสอบจุดการให้บริการได้ที่ EA Anywhere นอกจากนี้ทาง EA Anywhere ได้ประกาศเปิดสถานีชาร์จ DC (Fast Charge) หรือแบบชาร์จเร็วเพิ่มอีกถึง 35 สถานี ได้แก่ 

  • สถานี Big-c สุขาภิบาล 3
  • สถานี CALTEX (สินทรัพย์มงคลชัย)
  • สถานี SUSCO สาขาบางบัวทอง(ไทรน้อย)
  • สถานี SUSCO สาขาบางใหญ่
  • สถานี บริษัท เบสท์ เอ็นเนอร์ยี่ พลัส จำกัด สาขา 22 (บางนาขาเข้า)
  • สถานีบริษัท เบสท์ เอ็นเนอร์ยี่ พลัส จำกัด สาขา23 (บางพลี)
  • สถานี บริษัท เบสท์ เอ็นเนอร์ยี่ พลัส จำกัด สาขา 25 (กิ่งแก้ว)
  • สถานี อาคาร อาคเนย์ประกันภัย จำกัด
  • สถานี โรงพยาบาลพระราม 9
  • สถานี Bizzo Bangna
  • สถานี The Explace Mall (กาญจนาภิเษก)
  • สถานี The Walk สาขาราชพฤกษ์
  • สถานี The Visda Park
  • สถานี ศูนย์การค้า EASE PARK รามอินทรา
  • สถานี One One Food Avenue (ซอยสามัคคี)
  • สถานี สนามบินน้ำมาร์เก็ตพาร์ค
  • สถานี ม.ธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต ST.1
  • สถานี มหาวิทยาลัยราชพฤกษ์
  • สถานี สถานบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)
  • สถานี MG จันทบุรี
  • สถานี MG อุดรธานี
  • สถานี MG HITECH T&N Co.,LTD บุรีรัมย์
  • สถานี MG HITECH T&N Co.,LTD (นางรอง)
  • สถานี MG รวมกิจ (นครพนม)
  • สถานี MG Areemit (มหาสารคาม)
  • สถานี MG ร่วมใจเอ็มจีเมืองเลย
  • สถานี MG ร่วมใจเอ็มจีหนองบัวลำภู
  • สถานี MG Deelert Auto Car (อำนาจเจริญ)
  • สถานี MG M2 Motorsports (จ.อุบลราชธานี)
  • สถานี ESCAPE KHAO YAI HOTEL
  • สถานี ROYCE Privata Residences ซอยสุขุมวิท23
  • สถานี บริษัท Eastern Group (ซอยโยธินพัฒนา 3แยก2)
  • สถานี B AUTOHAUS (ถ.วิภาวดีรังสิต)
  • สถานี Saksit Alloy Group
  • สถานี บริษัท 909 มหาคุณ จำกัด

ทำความรู้จัก ตู้ชาร์จอัจฉริยะ Battery Swapping Tank จาก H SEM แค่กด เปิด และ เปลี่ยน เท่านั้น!

หลายคนเมื่อได้ยินว่า H SEM มีตู้ชาร์จอัจฉริยะ Battery Swapping Tank ที่มาพร้อมกับขั้นตอนง่าย ๆ 3 ขั้นตอน คือ กด, เปิด และ เปลี่ยน คงจะสงสัยอย่างแน่นอนเลยว่าขั้นตอนมันจะง่ายอย่างที่อวดอ้างจริงหรือไม่? งานนี้ใครที่กำลังสงสัยอยู่ เราขอบอกเลยว่าจริง!

โดยตู้ชาร์จอัจฉริยะจาก H SEM หรือ Battery Swapping Tank คือ ตู้สำหรับเปลี่ยนแบตเตอรี่รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่ H SEM ออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวกในการเปลี่ยนแบตเตอรี่โดยเฉพาะ ให้คุณประหยัดเวลาไม่ต้องรอชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม เรื่องความยุ่งยากในการใช้งานขอบอกเลยว่าไม่ยุ่งยากแน่นอน คุณเพียงแค่กด เปิดและเปลี่ยนเท่านั้น!

นอกจากความง่ายในการใช้งานแล้ว เจ้าตู้ชาร์จอัจฉริยะนี่ยังมีข้อดีอีกมากมายที่พร้อมมาซัพพอร์ทการใช้งานของคุณ ดังนี้

1. เปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ไม่มีสะดุด

ตู้ชาร์จอัจฉริยะ Battery Swapping Tank จาก H SEM มาพร้อมกับความสามารถในการชาร์จแบตเตอรี่ในเครื่องได้พร้อมกันสูงสุดถึง 11 ลูก รับประกันความสะดวก เปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ไม่มีสะดุดแนนอน เพราะ H SEM คิดมาแล้วว่าอะไรคือสิ่งที่ดีที่สุด สะดวกที่สุดสำหรับคุณ!

2. All in One Touch Screen

ตู้ชาร์จอัจฉริยะ Battery Swapping Tank จาก H SEM มาพร้อมกับหน้าจอ LED แบบ Touch Screen ให้คุณใช้งานได้สะดวก ครบ จบที่หน้าจอเดียว กับ All in One Touch Screen จาก H SEM 

3. ปลอดภัยตลอดการใช้งาน

ตู้ชาร์จอัจฉริยะ Battery Swapping Tank จาก H SEM มาพร้อมกับระบบรักษาความปลอดภัยตลอดการใช้งาน ด้วยระบบเบรกเกอร์ในตู้, ระบบเบรกเกอร์นอกตู้, ระบบสายดิน และ ระบบตัดไฟอัตโนมัติเมื่อเครื่องชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม ให้คุณมั่นใจเรื่องความปลอดภัยขณะใช้งานได้เลย!

4. อุ่นใจตลอดเวลาด้วย QR Code 

ให้คุณอุ่นใจตลอดเวลาที่ใช้งานแม้ในยามที่เกิดปัญหา ด้วย QR Code เพื่อติดต่อพนักงานบริการได้ตลอด 24 ชม. เมื่อเกิดปัญหาและต้องการความช่วยเหลือ

และนี่ก็คือตู้ชาร์จอัจฉริยะ Battery Swapping Tank จาก H SEM ตัวช่วยในการขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าให้ไม่มีสะดุด แว่ว ๆ มาว่าตู้ชาร์จอัจฉริยะ Battery Swapping Tank ของ H SEM ในขณะนี้กำลังจะพัฒนาระบบการใช้งานให้ง่ายอีกขั้น ด้วยระบบ RFID ซึ่งเป็นระบบที่มีวิธีการใช้งานแบบแสกนบัตร BTS และบัตร MRT ส่วนคำถามที่ว่าตู้นี้จะมีจุดให้บริการที่ใดบ้าง H SEM ขออุบไว้ก่อน รอติดตั้งเป็นที่เรียบร้อยแล้วเราจะมาบอกคุณอย่างแน่นอน!

Web

ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย รถสามล้อไฟฟ้า ควรใช้เป็นแบตเตอรี่ประเภทไหนดี?

เมื่อพูดถึง รถสามล้อไฟฟ้า เชื่อเหลือเกินว่าหลายคนจะต้องนึกถึงแบตเตอรี่อย่างแน่นอน เนื่องจากแบตเตอรี่นั้นเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่มีส่วนช่วยให้รถพลังงานไฟฟ้าสามารถขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้ ด้วยเหตุนี้ H SEM จึงไม่พลาดที่จะนำเสนอสาระดี ๆ เกี่ยวกับแบตเตอรี่รถสามล้อไฟฟ้ามาฝากทุกคนกัน งานนี้แบตเตอรี่มีกี่ประเภท และรถสามล้อไฟฟ้าควรใช้แบตเตอรี่ประเภทไหนบ้าง วันนี้เราหาคำตอบมาให้คุณแล้ว!

ทำความรู้จัก “แบตเตอรี่” แหล่งพลังงานสำหรับ รถสามล้อไฟฟ้า

“แบตเตอรี่” หนึ่งในอุปกรณ์ที่มีส่วนช่วยให้รถสามล้อไฟฟ้าสามารถขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้ โดยแบตเตอรี่จะทำหน้าที่ป้อนกระแสไฟฟ้าให้อุปกรณ์ต่าง ๆ ของเครื่องยนต์ทำงานได้ ซึ่งแบตเตอรี่สามารถแบ่งได้ทั้งสิ้น 3 ประเภท ดังนี้

1. แบตเตอรี่น้ำกลั่น (Distilled Water Battery)

สำหรับแบตเตอรี่ประเภทนี้เรียกได้ว่าเป็นแบตเตอรี่ที่มีตะกั่วกรด โดยส่วนผสมภายในแบตเตอรี่นั้นประกอบด้วยโลหะผสมระหว่างตะกั่วกับพลวง อายุของแบตเตอรี่ชนิดนี้อยู่ที่ 1-1.5 ปี เนื่องจากแบตเตอรี่ประเภทนี้ต้องเติมน้ำกลั่นทุก ๆ 7-14 วัน ทำให้แบตเตอรี่ประเภทนี้ไม่เหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลรถ ข้อดีของแบตเตอรี่ประเภทนี้ก็คือ มีความทนทานต่อการประจุไฟเกินและคายประจุ ที่สำคัญก็คือแบตเตอรี่ประเภทนี้มีราคาที่ค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับแบตเตอรี่ประเภทอื่น ๆ ที่ใช้กับรถสามล้อไฟฟ้า

2. แบตเตอรี่เจล (Gel Battery)

สำหรับแบตเตอรี่ประเภทนี้อาจกล่าวได้ว่าเป็นหนึ่งในวิวัฒนาการของแบตเตอรี่เแบบน้ำกลั่นเลยก็ว่าได้  เนื่องจากแบตเตอรี่ข้างในนั้นถูกเปลี่ยนจากน้ำกรดให้กลายเป็นเจลด้วยการเติมผงซิลิกาลงไป เมื่อตัวแบตเตอรี่ได้รับการกระทบกระเทือนก็ยังคงมีความปลอดภัย เนื่องจากน้ำกรดมีความหนืดและหกยาก อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ประเภทนี้มีอายุการใช้งานอยู่ที่ 1.5-2 ปี 

เรื่องความกังวลที่จะต้องคอยเติมน้ำกลั่นอยู่บ่อย ๆ นั้นเราขอบอกเลยว่าหายห่วง เพาะแบตเตอรี่ประเภทนี้ไม่ต้องเติมน้ำกลั่นเลย ทำให้ตอบโจทย์สุด ๆ สำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาตรวจดูรถของตนเองอยู่บ่อย ๆ ข้อเสียของการใช้แบตเตอรี่ประเภทนี้ก็คือต้องหลีกเลี่ยงการโดนน้ำโดยเด็ดขาด ไม่เว้นแม้กระทั่งน้ำค้าง

3. แบตเตอรี่ลิเทียมไอออน (Lithium-Ion Battery)

สำหรับแบตเตอรี่ประเภทนี้เรียกได้ว่าเป็นนวัตกรรมแบตเตอรี่ใหม่ล่าสุดของวงการยานยนต์เลยก็ว่าได้ เพราะมันมีอายุการใช้งานมากถึง 5-6 ปีเลยทีเดียว นอกจากแบตเตอรี่ประเภทนี้จะมีอายุการใช้งานที่ค่อนข้างนานกว่าแบตเตอรี่ 2 ประเภทก่อนหน้านี้แล้ว แบตเตอรี่ประเภทนี้ยังไม่ก่อให้เกิดมลพิษกับโลกอีกด้วย 

โดยแบตเตอรี่แบบลิเทียมไอออนสามารถทำงานได้เป็นระยะเวลายาวนานด้วยการชาร์จเพียงหนึ่งครั้ง ข้อเสียของแบตเตอรี่ประเภทนี้คือ หากได้รับความเสียหายในระหว่างการขนส่ง แบตเตอรี่ลิเทียมอาจลัดวงจร ส่งผลให้เกิดความร้อนสูงผิดปกติ และลุกไหม้ได้ นั่นจึงทำให้ในระหว่างขั้นตอนการขนส่งมีความจำเป็นอย่างมากที่จะต้องขนส่งอย่างระมัดระวัง ป้องกันไม่ให้ตัวแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง

วิธีดูแลรักษาแบตเตอรี่ รถสามล้อไฟฟ้า จาก H SEM

หลังจากที่เราทำความเข้าใจเกี่ยวกับประเภทของแบตเตอรี่รถสามล้อไฟฟ้ากันไปแล้ว ก็มาสู่ขั้นตอนสำคัญที่ทำให้แบตเตอรี่ของคุณมีอายุการใช้งานยาวนานตามที่มันควรจะเป็นกันบ้าง กับ 3 วิธีดูแลแบตเตอรี่รถสามล้อไฟฟ้าจาก H SEM 

1. ไม่ควรใช้ รถสามล้อไฟ้า จนแบตเตอรี่หมดหรือเหลือ 0% 

สำหรับเรื่องนี้เป็นอะไรที่สำคัญอย่างมาก อย่าลืมว่าทุกครั้งที่แบตเตอรี่ลดน้อยลง คุณจะต้องทำการชาร์จไฟเพื่อให้แบตเตอรี่กลับมาเต็มดังเดิม ยิ่งแบตเตอรี่ลดน้อยลงเท่าไหร่ ระยะเวลาที่ใช้ในการชาร์จก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น ส่งผลให้แบตเตอรี่เกิดความร้อนได้ง่ายเนื่องจากใช้เวลาในการชาร์จบ่อย และในการชาร์จแต่ละครั้งเองตัวแบตเตอรี่ต้องเผชิญกับความร้อนที่เพิ่มมากขึ้น ทางที่ดีเราขอแนะนำให้คุณชาร์จแบตเตอรี่ก่อนที่ปริมาณแบตเตอรี่จะเหลือ 20%-30% จะดีกว่า จะได้เป็นการถนอมอายุการใช้งานของแบตเตอรี่นั่นเอง

2. ไม่ได้ใช้งาน รถสามล้อไฟฟ้า ก็ต้องชาร์จแบตเตอรี่เสมอ

จริงอยู่ที่ในข้อที่หนึ่งนั้นเราได้กล่าวไปว่าการชาร์จแบตเตอรี่บ่อย ๆ ส่งผลต่ออายุการใช้งานของแบตเตอรี่ ทำให้มันมีอายุการใช้งานที่น้อยลงจากที่คาดการณ์เอาไว้ แต่ใช่ว่าการที่คุณไม่ได้ใช้งานรถสามล้อไฟฟ้าเลยจะไม่ต้องคอยชาร์จแบตเตอรี่นะ เพราะการที่แบตเตอรี่ไม่มีการใช้งานเลยก็เสี่ยงทำให้มันเสื่อมได้ ทางที่ดีเราขอแนะนำให้คุณชาร์จไฟอย่างน้อยทุก ๆ 15 วัน เพื่อเป็นการถนอมอายุการใช้งานของแบตเตอรี่จะดีที่สุด

3. หลีกเลี่ยงการทำให้แบตเตอรี่ร้อนโดยไม่จำเป็น

อย่างที่เราได้กล่าวไปก่อนหน้านี้ว่าการชาร์จแบตเตอรี่นาน ๆ ทำให้แบตเตอรี่ร้อนได้ง่าย เสี่ยงแบตเตอรี่เสื่อมไวได้ แต่คุณผู้อ่านทราบหรือไม่ว่านอกจากการชาร์จแบตเตอรี่นาน ๆ แล้ว การปล่อยให้แบตเตอรี่เจอกับแสงแดดนาน ๆ หรือวางแบตเตอรี่ไว้ในที่ร้อน ๆ นั้นก็ส่งผลเสียกับแบตเตอรี่ด้วยเช่นกัน เพราะการที่แบตเตอรี่เจอความร้อนมาก ๆ ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็ว แถมยังทำให้ความจุของแบตเตอรี่ลดลงอีกด้วย ดังนั้นพยายามหลีกเลี่ยงการวางแบตเตอรี่ไว้ในที่ร้อนกลางแดดจะดีที่สุด

และนี่ก็คือสาระดี ๆ ที่ H SEM นำมาฝากคุณผู้อ่านกันในวันนี้ หลังจากที่คุณซื้อรถสามล้อไฟฟ้าจาก H SEM ไป คุณสามารถนำสาระดี ๆ ที่ได้จากเราไปปรับใช้เพื่อถนอมอายุแบตเตอรี่สามล้อไฟฟ้าของคุณได้ เพื่อที่คุณจะได้ยืดเวลาการเสียเงินให้กับค่าใช้จ่ายการซ่อมแบตเตอรี่อย่างไม่จำเป็นไปได้นั่นเอง!

มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า

5 วิธีดูแล รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ให้อยู่ทน อยู่นาน

ในยุคที่ผู้คนหันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้นทำให้ยานพาหนะในปัจจุบันเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น โดยหนึ่งในนั้นก็คือ รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า นั่นเอง ด้วยเหตุนี้ H SEM จึงไม่พลาดที่จะนำเสนอวิธีการดูแลรักษารถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า งานนี้จะมีวิธีใดบ้าง เลื่อนไปอ่านพร้อมกันได้ที่ด้านล่างนี้เลย!

ทำความรู้จัก รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า พาหนะรักษ์โลกของคนยุคใหม่

รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า หรือ รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า คือ ยานพาหนะ 2 ล้อที่ใช้แบตเตอรี่เป็นพลังงานในการขับเคลื่อนรถ โดยส่วนใหญ่รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าในตลาดนั้นมักที่จะเป็นรถพลังงานไฟฟ้าแบบ EV หรือ Electric Vehicle ซึ่งรถพลังงานไฟฟ้าชนิดนี้จะใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่เป็นหลัก ไม่มีเครื่องยนต์ระบบสันดาปภายในไว้ใช้งาน ทำให้ไม่เกิดไอเสียและมลพิษ

ที่พิเศษกว่านั้นก็คือรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ายังช่วยประหยัดรายจ่ายอย่างค่าน้ำมันด้วย เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการชาร์จไฟนั้นตกอยู่ที่ 7-14 บาทเท่านั้น

นอกจากนี้ค่าบำรุงรักษารถเองก็ต่ำมากด้วยเช่นกัน จริงอยู่ที่ว่ารถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้านั้นมีข้อดีอยู่มากมาย แต่ใช่ว่ามันจะไม่มีข้อเสียเลยนะเพราะคุณจะต้องพกชาร์จเจอร์ไว้หากต้องเดินทางเป็นระยะไกล เนื่องจากยังมีข้อจำกัดเรื่องระยะทางในการเดินทางอยู่  โดยใช้เวลาประมาณ  6-8 ชั่วโมงในการชาร์จปกติ หรือ 2-4 ชั่วโมงในการชาร์จผ่านแท่นชาร์จเร็ว

5 วิธีดูแล รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ให้อยู่ทน อยู่นาน!

1. หลีกเลี่ยงการขับขี่ลุยน้ำท่วมขัง

สำหรับเรื่องนี้เราขอบอกเลยว่าเป็นอะไรที่สำคัญอย่างมาก จริงอยู่ที่รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้านั้นสามารถขับรถลุยน้ำท่วมขังได้ แต่มันก็มีข้อจำกัดด้วยเช่นกัน เพราะความสูงของน้ำที่ท่วมขังจะต้องไม่เกินครึ่งล้อของรถโดยเด็ดขาด เพราะถ้าความสูงของน้ำที่ท่วมเลยความสูงจากนี้ไป เชื่อเถอะว่ารถของคุณต้องส่งซ่อมอย่างแน่นอน เพื่อความไม่ประมาททางที่ดีหลีกเลี่ยงการขับรถลุยน้ำท่วมขังจะดีที่สุด!

2. อย่าปล่อยให้แบตเตอรี่ต่ำกว่า 20-30% 

เคยสังเกตกันไหมว่าโทรศัพท์มือถือเวลาที่คุณใช้จนแบตหมดแล้วนำมาชาร์จจนเต็ม โทรศัพท์มือถือของคุณจะร้อนมาก ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าแบตเตอรี่ต้องทำงานหนักนั่นเอง และเมื่อคุณทำพฤติกรรมเหล่านี้บ่อย ๆ เข้าแบตเตอรี่โทรศัพท์ของคุณก็จะมีอายุการใช้งานที่สั้นลงเรื่อย ๆ ซึ่งผลลัพธ์ที่ว่านี้เองก็เกิดขึ้นได้กับแบตเตอรี่รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าด้วยเช่นกัน 

ทางที่ดีเราขอแนะนำให้คุณชาร์จแบตเตอรี่ทุกครั้งหากแบตเตอรี่มีพลังงานต่ำกว่า 20-30% และถึงแม้ว่าคุณจะไม่ได้ใช้รถเลยก็ตามแต่ คุณก็ต้องชาร์จแบตเตอรี่ด้วย เพราะถ้ารถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าของคุณไม่ได้รับการชาร์จนาน ๆ เข้าแบตเตอรี่ก็อาจจะเสียได้เช่นกัน

3. พักเครื่องหลังใช้งานรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าเสมอ

เนื่องจากรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่ผ่านการใช้งานมาตัวแบตเตอรี่ย่อมมีความร้อนอยู่ เพื่อที่แบตเตอรี่ของคุณจะไม่เสื่อมอายุเร็วกว่ากำหนด เราขอแนะนำให้ก่อนชาร์จแบตเตอรี่คุณควรพักรถไว้ในที่ร่มก่อน 15-30 นาที เพื่อให้แบตเตอรี่คลายความร้อนลง จากนั้นจึงค่อยชาร์จแบตเตอรี่

4. หลีกเลี่ยงการจอดรถนอกชานบ้าน

ต้องทำความเข้าใจก่อนว่ารถประเภทนี้ใช้แบตเตอรี่ในการเป็นพลังงานขับเคลื่อนรถ การที่คุณปล่อยให้แบตเตอรี่โดนความร้อนหรือทิ้งไว้ในที่ร้อนจึงไม่เป็นผลดีต่อแบตเตอรี่สักเท่าไหร่ เพราะการที่แบตเตอรี่เจอความร้อนมาก ๆ นอกจากจะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็วแล้ว ประสิทธิภาพการทำงาน รวมถึงความจุของแบตเตอรี่ยังลดลงอีกด้วย ทางที่ดีเราขอแนะนำให้คุณพยายามหลีกเลี่ยงการจอดรถตากแดดนาน ๆ นำรถมาจอดไว้ในที่ร่มเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้แบตเตอรี่รถโดนแสงแดดจะดีที่สุด

5. ใช้ที่ชาร์จแบตเฉพาะยี่ห้อ เฉพาะรุ่นเท่านั้น

สำหรับข้อสุดท้ายนี้เป็นอะไรที่สำคัญอย่างมาก อย่าลืมว่าแบตเตอรี่แต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อนั้นกำลังวัตต์ไฟฟ้ามีความแตกต่างกัน การใช้ที่ชาร์จแบตเตอรี่มั่วซั่วอาจทำให้เกิดอันตรายได้ หากเทียบให้เห็นภาพ แบตเตอรี่รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าก็ทำหน้าที่เหมือนกันกับแบตโทรศัพท์มือถือเลย เมื่อเรานำมาใช้ผิดยี่ห้อ ผิดรุ่น ก็อาจจะก่อให้เกิดอันตรายได้ ยิ่งตัวแบตเตอรี่รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ามีขนาดใหญ่กว่าด้วยแล้ว ผลกระทบที่เกิดขึ้นก็จะมากตามไปด้วย

และนี่ก็คือสาระดี ๆ ที่ H SEM MOTOR นำมาฝากคุณผู้อ่านในวันนี้ เชื่อเหลือเกินว่าข้อมูลที่เรานำมาฝากในวันนี้จะมีประโยชน์สำหรับคุณไม่มากก็น้อยนะ งานนี้ใครที่ซื้อรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ามา คุณลองนำ 5 วิธีดูแลรถเหล่านี้ไปปรับใช้กับการดูแลรถของคุณได้ รับรองว่าถ้าปฏิบัติตามนี้ รถของคุณจะมีอายุการใช้งานที่ยาวนานอย่างแน่นอน!

health-check

เอช เซม ตรวจสุขภาพประจำปี 2563

ในวันที่ 21 พฤศจิกายน 2563 ที่ผ่านมา เอช เซม มีการตรวจสุขภาพประจำปี 2563 ของทาง เอช เซม เพื่อเป็นการตรวจเช็คสุขภาพร่างกายของพนักงาน ให้คำแนะนำการดูแลรักษาสุขภาพและพลานามัย

temple

H SEM ถวายรถกอล์ฟไฟฟ้า ให้แก่วัดเสนาสนาราม ราชวรวิหาร

วันที่ 11 พฟศจิกายน 2563 ที่ผ่านมา เวลา 9.30 น. คุณวันชัย ลี้นะวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอช เซม นำทีมผู้บริหาร ถวายรถกอล์ฟไฟฟ้า รุ่น 2+2 LED LUXURY ให้แก่ พระเทพมงคลโสภณ (โสภณ ปญฺญาโสภโณ) เจ้าอาวาสวัดเสนาสนาราม ราชวรวิหาร เพื่อเป็นสาธารณะกุศล แก่พระภิกษุสงฆ์ และพุทธศาสนิกชนที่มาประกอบพิธีกรรมทางศาสนา

HSEM_T_Leasing

10.11 โปรโมชั่นเด็ดจาก เอช เซม

เพียงซื้อรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่งาน H SEM T Leasing Motorbike Show ก็มีสิทธิ์ลุ้นไปพักผ่อนสุด Chill ที่กระบี่ 3 วัน 2 คืนแล้ว! มาเจอกันได้ที่บูธ เอช เซม ชั้น G Avenue A-B ศูนย์การค้า MBK ตั้งแต่วันที่ 10-16 พฤศจิกายน 2563 นี้!

Tleasing

เอช เซม ร่วมงานแถลงข่าว ” T Leasing Motorbike Show “

โดยในครั้งนี้ทาง เอช เซม ได้ร่วมเป็นหนึ่งในพันธมิตรที่นำนวัตกรรมยานยนต์ด้านพลังงานไฟฟ้าไปร่วมแสดงโชว์ที่ใจกลางกรุงเทพฯ เพื่อให้ทุกท่านได้สัมผัสและเยี่ยมชมกับนวัตกรรมยานยนต์ของเรา

โดยคุณรัตชนก หวังเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอช เซม เทรดดิ้งคอร์ปอเรชั่น จำกัด ได้เข้าร่วมงานแถลงข่าวและประชาสัมพันธ์สินค้า กิจกรรมภายในบูธ รวมถึงโปรโมชั่นสุดพิเศษภายในงานครั้งนี้ด้วย โดยงานจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-16 พฤศจิกายน 2563 ณ ชั้น G ลานอเวนิว โซน เอ และ บี ศูนย์การค้าเอ็ม บี เค เซ็นเตอร์

รับรางวัล

เอช เซม รับรางวัล โรงงานสีขาว

บริษัท เอช เซม มอเตอร์ และบริษัทในเครือ เข้ารับรางวัล Ayutthaya Labour Award 2020 โดยคุณวันชัย ลี้นะวัฒนา ประธานเจ้าหน้าทีบริหาร นำทีมผู้บริหารบริษัทในเครือรับรางวัล ” เกียรติบัตรการจัดการด้านยาเสพติดในสถานประกอบกิจการตามโครงการโรงงานสีขาว ประจำปี 2563 ”

โดยผ่านการคัดเลือกจากสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จากผู้ผ่านการคัดเลือกจำนวน 198 สถานประกอบการ ซึ่งภายในงานได้รับเกียรติจาก นายอภิญญา สุจริตตานันท์ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เป็นประธานในพิธี และนายพรพจน์ บัณฑิตยานุรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นผู้มอบรางวัล เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2563 ณ ห้องแกรนด์บอลรูม โรงแรมกรุงศรีริเวอร์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

โปรตุลาคม1

เปลี่ยนใหม่ง่ายกว่า กับ เอช เซม

เปลี่ยนใหม่ง่ายกว่า กับ เอช เซม ไม่ว่าคุณจะมีรถแบบไหน จะเป็น 2 ล้อ 3 ล้อ 4 ล้อไฟฟ้า หรือ 2 ล้อ 3 ล้อเครื่องยนต์ ก็เปลี่ยนมาเป็น สินค้าของ เอช เซม ได้ แถมเงินกับบ้านไปใช้ฟรีๆ

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

สามล้อเครื่องยนต์

เคล็ดไม่ลับ กับ วิธีดูแล รถสามล้อเครื่องยนต์

เมื่อพูดถึง รถสามล้อเครื่องยนต์ หลายคนมักจะทำความเข้าใจเกี่ยวกับรถสามล้อเครื่องยนต์ว่าเป็นยานพาหนะที่ค่อนข้างดูแลง่าย ไม่ค่อยมีอะไรให้จุกจิกวุ่นวายมากนัก แต่ใช่ว่าคุณจะปล่อยปละละเลยการดูแลรถสามล้อเครื่องยนต์ได้นะ ด้วยเหตุนี้เอง H SEM จึงไม่รอช้าที่จะนำเสนอวิธีดูแลรถสามล้อเครื่องยนต์ งานนี้จะมีวิธีอะไรบ้างที่จะทำให้รถสามล้อเครื่องยนต์ของคุณอยู่ทน อยู่นาน เราขอบอกเลยว่าห้ามพลาด!

5 วิธีดูแล รถสามล้อเครื่องยนต์ ให้ทนทาน อยู่นานกว่าที่เคย

จริงอยู่ที่ว่า รถสามล้อเครื่องยนต์ นั้นเป็นยานพาหนะที่แข็งแกร่ง ทนทาน น่าจะไม่ต้องดูแลอะไรมากมาย แต่ใช่ว่าเรื่องนี้จะสามารถละเลยได้นะ เพื่อที่รถของคุณจะได้อยู่ทน อยู่นานตามอายุการใช้งานที่ได้ระบุเอาไว้ เราจึงขอเสนอ 5 วิธีดูแลรถสามล้อเครื่องยนต์ให้ทนทาน อยู่นานกว่าที่เคย จะมีวิธีใดบ้างเลื่อนลงไปอ่านพร้อมกันเลยดีกว่า!

1. หมั่นเช็คลมยางทุกครั้งไม่ให้ขาด

สำหรับเรื่องนี้เรียกได้ว่าเป็นอะไรที่สำคัญมาก เนื่องจากลมยางนั้นมีผลต่อสมรรถนะการขับขี่เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นด้านการควบคุม, การบังคับเลี้ยว, การเบรก และ ความประหยัดน้ำมัน เพื่อที่รถสามล้อเครื่องยนต์ของคุณจะมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น เราขอแนะนำให้คุณหมั่นดูแลและเช็คลมยางให้เป็นไปตามข้อแนะนำอยู่เสมอ เพียงแค่นี้ก็จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่มากขึ้นแล้ว อย่าลืมว่าหากรถสามล้อเครื่องยนต์มีลมยางที่อ่อนเกินไปหรือแข็งเกินไป อาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้

2. น้ำมันเครื่องต้องเช็คทุกครั้งก่อนใช้งาน

สำหรับเรื่องนี้เองก็เป็นอะไรที่สำคัญไม่แพ้กัน ดังนั้นก่อนที่จะมีการใช้งานใด ๆ ก็ตามแต่ เจ้าของรถสามล้อเครื่องยนต์อย่างคุณก็ควรที่จะตรวจน้ำมันเครื่องเสมอ หากพบว่าน้ำมันเครื่องเปลี่ยนเป็นสีดำ ให้ทำการถ่ายน้ำมันเครื่องทันที หรือไม่ก็ทำการถ่ายน้ำมันเครื่องตามระยะที่กำหนดทันที เพื่อยืดอายุการทำงานของเครื่องยนต์ให้ยาวนานยิ่งขึ้น

เนื่องจากน้ำมันเครื่องนั้นมีส่วนช่วยในการชำระล้างเครื่องยนต์ การที่น้ำมันเครื่องสีใสเปลี่ยนเป็นสีดำแล้วคุณไม่ทำการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องแล้วละก็ ผลที่ตามมาก็คือเนื่องจากน้ำมันเครื่องมีสีดำเนื่องจากสิ่งสกปรกและความหนืดที่สูงขึ้น ด้วยผลลัพธ์ดังกล่าวทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ ท้ายที่สุดเครื่องยนต์ก็เกิดการสึกหรอ

3. ระดับน้ำในหม้อน้ำต้องสมดุล

ต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่าหน้าที่สำคัญของหม้อน้ำรถยนต์ คือ ช่วยระบายความร้อนส่วนเกินจากการเผาไหม้ของเครื่องยนต์  เพราะการเผาไหม้เชื้อเพลิงแต่ละครั้งจะมีอุณหภูมิสูงมาก ความร้อนที่เกิดขึ้นจะต้องใช้น้ำยาหล่อเย็นเป็นตัวช่วยในการนำพาความร้อนส่วนเกินนี้มาลดอุณหภูมิที่บริเวณรังผึ้งหม้อน้ำโดยมีพัดลมหม้อน้ำเป็นตัวช่วยให้เย็นลง ทำให้การรักษาระดับหม้อน้ำเป็นเรื่องที่ไม่ควรละเลย

โดยที่หม้อน้ำจะมีสัญลักษณ์บอกว่าตรงไหนคือระดับน้ำที่เหมาะสม หากน้ำน้อยเกินไปอาจทำให้เครื่องยนต์ร้อนผิดปกติจนนำมาสู่ปัญหาที่ทำให้อุปกรณ์รถส่วนอื่นเสียหายได้ ดังนั้นคุณจึงต้องหมั่นเติมน้ำให้อยู่ในระดับที่แนะนำเสมอ

4. เช็คระยะในการใช้งานทุก 1,000 กิโล

สำหรับข้อนี้เราขอบอกเลยว่าสัมพันธ์กันกับการเช็คน้ำมันเครื่อง เนื่องจากระยะทางทุก 1,000 กิโลจะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องพอดี ซึ่งการทำแบบนี้นอกจากจะทำให้คุณรู้สึกอุ่นใจ ปลอดภัยขณะขับขี่มากขึ้นแล้ว ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของรถสามล้อเครื่องยนต์อีกด้วย เนื่องจากอะไหล่บางตัวเมื่อมีการสึกหรอ ก็จะส่งผลให้ตัวอื่นสึกหรอตามไปด้วยนั่นเอง ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมที่อาจจะบานปลาย

5. เช็คช่วงล่างก่อนใช้งานและ ตรวจสอบระบบเบรกเสมอ

สำหรับข้อสุดท้ายนี้เรียกได้ว่าเป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยก็ว่าได้ นั่นก็คือการตรวจสอบช่วงล่าง ตรวจสอบระบบเบรกอยู่เสมอนั่นเอง เพราะคุณไม่มีทางรู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับรถของคุณ เพื่อความไม่ประมาทคุณควรที่จะเช็คช่วงล่างหรือระบบเบรค ก่อนใช้งานเสมอ ห้ามละเลยเป็นอันขาด อย่างน้อย ๆ ก็เพื่อความสบายใจของคุณ

และนี่ก็คือสาระดี ๆ ที่ H SEM นำมาฝากคุณผู้อ่านกันในวันนี้ หลังจากที่อ่านบทความนี้จบเราเชื่อเหลือเกินว่าคุณผู้อ่านทุกท่านจะนำไปปรับใช้สำหรับดูแลรถสามล้อเครื่องยนต์ของคุณให้อยู่ทน อยู่นาน ตามอายุการใช้งานนะ